วิธีเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์

การเข้าชมใหม่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่มาหล่อเลี้ยงเว็บไซต์ และในบทความนี้ เราจะมาลองดูกลยุทธ์แบบไร้ต้นทุน 2-3 รูปแบบที่คุณสามารถใช้เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและดึงดูดผู้เข้าชมออนไลน์มากขึ้นได้

ก่อนที่จะเริ่ม คุณต้องมีเป้าหมายชัดเจนว่าเหตุใดถึงต้องการเพิ่มการเข้าชม คุณต้องการขยายฐานผู้ใช้ในชุมชม ต้องการเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ หรือต้องการแก้ปัญหาสังคม เช่น หากมีเป้าหมายเป็นข้อสุดท้าย คุณไม่ควรดึงดูดผู้เลือกซื้อที่ต้องการใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้า เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้จะหงุดหงิดและออกจากร้านไป

เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว คุณก็พร้อมเริ่มโปรโมตเว็บไซต์ และเพิ่มการเข้าชม

โดยทั่วไปแล้ว การโปรโมตเว็บไซต์แบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้

การโปรโมตแบบเสียค่าใช้จ่ายคือการชำระเงินเพื่อลงโฆษณาในแพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์อื่นๆ (เช่น หน้าผลการค้นหาของ Google หากคุณใช้ Google Ads)

การโปรโมตด้วยตัวเองผ่านรายชื่อผู้สมัครรับข้อมูลทางอีเมลที่คุณส่งข่าวสารหรือข้อเสนอให้เป็นครั้งคราว

การโปรโมตฟรีคือเว็บไซต์อื่นๆ ที่ลิงก์มายังเว็บไซต์ของคุณ เช่น บล็อกอื่นหรือบทความข่าวที่กล่าวถึงคุณ

แต่บางวิธีก็ใช้การโปรโมตทั้ง 3 ประเภท เช่น โฆษณาในโซเชียลมีเดียแบบชำระเงินที่ส่งเสริมให้ผู้ติดตามรีโพสต์และเผยแพร่ข่าวสาร/จุดประสงค์/ผลิตภัณฑ์ของคุณไปสู่ผู้ใช้รายอื่น สิ่งสำคัญสำหรับการโปรโมตทั้ง 3 ประเภทคือเนื้อหาที่ยอดเยี่ยม ซึ่งจะช่วยดึงดูดให้ผู้ใช้กลับมาอ่านอยู่เป็นประจำ

กุญแจสู่เนื้อหาที่ยอดเยี่ยม

คุณสามารถสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจได้หลายวิธี หากคุณเป็นบล็อกเกอร์เฉพาะทาง เช่น ด้านอาหาร ทางเลือกหนึ่งคือการสัมภาษณ์เชฟในพื้นที่เกี่ยวกับวิธีการปรุงอาหารเทศกาลจานโปรด หรือหากเป็นนักวางแผนงานแต่งงาน คุณสามารถสร้างสรรค์เนื้อหาหรือสถิติที่ไม่เหมือนใครเพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้ เช่น จำนวนงานแต่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้าหรือเทรนด์ใหม่ๆ ในการแต่งหน้าเจ้าสาว หรือจะสร้างโพลใน Twitter แล้วเผยแพร่ข้อมูลที่ค้นพบก็ได้

ไม่ว่าคุณจะมีเป้าหมายอะไร การทำให้เนื้อหาดึงดูดสายตาและเข้าใจง่ายจะช่วยส่งเสริมให้ผู้คนเพลิดเพลินและแชร์เนื้อหามากขึ้น สุดท้ายนี้ เมื่อคุณอัปเดตเพื่อเพิ่มเนื้อหาใหม่ลงในเว็บไซต์แล้ว โปรดอย่าลืมอย่าลืมเพิ่มลิงก์ไปที่เนื้อหาเดิมๆ และในทางกลับกัน ให้เพิ่มลิงก์เนื้อหาใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องลงในเนื้อหาเดิมด้วย เคล็ดลับเพิ่มเติมในการสร้างเนื้อหาที่โดดเด่น

วิธีเพิ่มการเข้าชม

เมื่อเตรียมเนื้อหาพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลานำเนื้อหาดังกล่าวไปแสดงต่อกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมด้วยวิธีต่อไปนี้

1. โซเชียลมีเดียทั่วไป

วิธีนี้อาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการสร้างกลุ่มเป้าหมายและกระตุ้นการเข้าชม กุญแจสำคัญคือการค้นคว้าข้อมูลและหาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่กลุ่มเป้าหมายของคุณใช้มากที่สุด ซึ่งทำได้โดยสอบถามลูกค้าเดิมหรือชุมชนของคุณ หรือเพียงแค่ค้นหาข้อมูลใน Google สักพักเดียวคุณก็จะคุ้นเคยกับประเภทของเนื้อหาที่ผู้ใช้ชื่นชอบและแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้มักจะเข้าไปบริโภคเนื้อหา เช่น หากคุณเปิดบล็อกการถักนิตติ้ง คุณอาจพบว่าผู้ใช้มักจะไปที่ YouTube เพื่อดูเคล็ดลับใหม่ๆ หรือสนุกกับการโพสต์และพูดคุยเกี่ยวกับผลงานของตนเองใน Instagram

หากคุณตัดสินใจลงทุนในโซเชียลมีเดีย โปรดอย่าลืมกำหนดตารางเวลาการโพสต์ที่สอดคล้องกัน และปรับแต่งเนื้อหาของคุณให้เข้ากับแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น หากใช้ Twitter คุณจะต้องจำกัดเนื้อหาโพสต์ไว้ที่ 280 อักขระ ส่วน YouTube Shorts ก็ยังจำกัดวิดีโอให้มีความยาวไม่เกิน 60 วินาทีอีกด้วย สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือการทำให้เนื้อหาของคุณน่าดึงดูดใจมากที่สุด ดังนั้น แทนที่จะโพสต์ข้อความธรรมดาๆ ให้ลองสร้างกราฟิกง่ายๆ ที่ดึงดูดสายตาเมื่อเลื่อนดู และส่งเสริมให้ผู้ใช้แชร์โพสต์นั้น

และอย่าลืมใช้เมตาแท็กของโซเชียลมีเดีย ซึ่งจะช่วยส่งผลต่อการแสดงเว็บไซต์เมื่อมีการแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ไม่ต้องอาย หากผู้คนกำลังพูดถึงหัวข้อที่คุณชื่นชอบหรือมีความเชี่ยวชาญ ให้เข้าไปมีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็นที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร

2. รายชื่ออีเมล

เมื่อเว็บไซต์เติบโตขึ้น คุณอาจลองขออีเมลจากผู้ใช้เพื่อใช้เป็นช่องทางติดต่อในอนาคต ก่อนที่จะเริ่มต้น สิ่งสำคัญคือต้องแสดงให้ผู้คนเห็นสิ่งที่จะได้รับเป็นการตอบแทน เช่น คำแนะนำฟรี ข้อเสนอพิเศษ หรือสรุปข่าวสารรายเดือน

สิ่งตอบแทนที่คุณเลือกจะต้องสอดคล้องกับรูปแบบและความถี่ของเนื้อหาเสมอ และอย่าลืมเพิ่มปุ่มแสดงคำกระตุ้นให้ดำเนินการที่ชัดเจนในอีเมล ซึ่งจะช่วยดึงดูดผู้ใช้ให้กลับมาที่เว็บไซต์ของคุณ เคล็ดลับยอดนิยมอีกข้อหนึ่งคืออย่าส่งสแปมให้กับกลุ่มเป้าหมาย การสแปมไม่เพียงแค่จะผิดกฎหมายในบางประเทศเท่านั้น แต่อาจทำให้กลุ่มเป้าหมายหมดความสนใจถึงขั้นต้องการเลิกสมัครรับข้อมูล

3. การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหา (SEO)

SEO เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ที่ช่วยให้คุณแสดงตัวในผลการค้นหาลำดับที่สูงขึ้น และสร้างการเข้าชมใหม่ๆ กุญแจสู่ความสำเร็จคือการสร้างเนื้อหาที่สดใหม่และดึงดูดใจ และ Google Trends ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพียงพิมพ์หัวข้อที่คุณสนใจ (เช่น "โยคะ") เพื่อดูว่าความสนใจในการค้นหาหัวข้อนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป และผู้คนค้นหาวลีและคำที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ใดบ้าง (เช่น "โยคะนิทรา" หรือ "โยคะร้อน") จากนั้นคุณสามารถนำคำเหล่านี้ไปใช้เขียนบทความหรือบล็อก เพื่อช่วยให้เว็บไซต์มีแนวโน้มที่จะปรากฏขึ้นเมื่อมีผู้ค้นหาแบบออนไลน์

เคล็ดลับสำคัญอีกหนึ่งข้อสำหรับวิธีนี้คือต้องตั้งค่าเว็บไซต์เพื่อให้ Google และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ สามารถรวบรวมข้อมูลและจัดทำดัชนีได้ โปรดอ่านคู่มือ SEO สำหรับมือใหม่นี้ หรือรับชมการสัมมนาผ่านเว็บตามคำขอของเรา หากคุณเป็นผู้เผยแพร่โฆษณา เราแนะนำให้รับชมการสัมมนาผ่านเว็บนี้ด้วย ซึ่งจะพูดถึงเว็บไซต์ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ การแบ่งหน้า เนื้อหาที่ซ้ำกัน และอื่นๆ

เมื่อเว็บไซต์ได้รับความนิยมมากขึ้น คุณอาจลองเพิ่มการเข้าชมโดยการขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ และคู่มือนี้มีวิธีแปลเนื้อหาให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายใหม่

4. ประชาสัมพันธ์ฟรี

อีกหนึ่งวิธีที่คุณควรลองคือการประชาสัมพันธ์ฟรี คุณจะต้องสร้างข่าวประชาสัมพันธ์เพื่อเริ่มใช้วิธีนี้ ตัวข่าวสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่กลุ่มเป้าหมายอาจสนใจ ตราบใดที่คุณเพิ่มลักษณะหรือมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบของคุณเองเข้าไป เช่น หากคุณเปิดบล็อกการทำอาหารและกำลังเปิดตัวตำราอาหารเทศกาล ให้ลองเน้นที่ข้อเท็จจริงที่ว่าสูตรอาหารทั้งหมดของคุณเป็นแบบมังสวิรัติหรือเป็นสูตรที่ตกทอดมาจากคุณยาย

เมื่อมีเรื่องราวที่ชัดเจนและมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว คุณจะต้องพิจารณาดูว่าใครจะสนใจเรื่องราวที่คุณนำเสนอ ซึ่งในกรณีนี้อาจเป็นบล็อกเกอร์ด้านอาหาร เว็บไซต์การทำอาหาร หรือแม้แต่คนดังสายมังสวิรัติใน Twitter หากคุณไม่แน่ใจว่าจะส่งข่าวประชาสัมพันธ์ไปให้ใคร ให้ลองค้นหาข้อมูลคร่าวๆ ใน Google เกี่ยวกับบริการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ฟรี

เคล็ดลับยอดนิยมสำหรับการสร้างข่าวประชาสัมพันธ์ที่ดีมีดังนี้

• เขียนบรรทัดแรกที่ดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน/ผู้สื่อข่าว/บล็อกเกอร์
• เข้าประเด็นทันที อธิบายสิ่งที่คุณนำเสนอ อธิบายจุดประสงค์ของผลิตภัณฑ์ ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีความสำคัญอย่างไร
• ค้นหามุมที่น่าสนใจหรือประโยคเปิดทางไปสู่เรื่องราวของคุณ (เช่น "ในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้ ชาวอังกฤษ 1 ใน 5 รายจะปรุงอาหารมังสวิรัติให้กับครอบครัว")
• หากเป็นไปได้ ให้ใช้เครื่องหมายหัวข้อย่อยแทนย่อหน้ายาวๆ

สิ่งที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับแคมเปญประชาสัมพันธ์ ให้คุณพยายามอดทนและอย่าคาดหวังผลลัพธ์ในชั่วข้ามคืน อาจต้องลองผิดลองถูกหลายครั้งก่อนที่ผู้ใช้จะสนใจเรื่องราวของคุณ และคุณจะต้องใช้เวลาค้นหาว่ามีใครบ้างเป็นแกนหลักในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มของคุณ แล้วเริ่มสร้างความสัมพันธ์กับคนกลุ่มนั้น

พร้อมรับการเข้าชมที่เพิ่มมากขึ้นแล้วหรือยัง

แม้ว่ากลยุทธ์เหล่านี้สามารถช่วยคุณได้ แต่สำหรับตอนนี้เราแนะนำให้เลือกเพียงกลยุทธ์เดียว แล้วใช้การวิเคราะห์เว็บไซต์เพื่อติดตามผลลัพธ์จากการใช้กลยุทธ์ที่เลือก แม้ว่าบางวิธีอาจใช้เวลานานกว่าวิธีอื่นๆ แต่เพียงสักพัก คุณก็จะเข้าใจว่าวิธีใดเหมาะกับคุณ และเนื้อหาใดที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายตอบสนองมากที่สุด มารู้ตัวอีกที ก็ถึงเวลาต้อนรับผู้เข้าชมเว็บไซต์รายใหม่ๆ และเดินหน้าพร้อมบรรลุเป้าหมายแล้ว