วิธีปรับปรุงกลยุทธ์การออกแบบการใช้งานสำหรับผู้ใช้ (UX) ในเว็บไซต์

การออกแบบการใช้งานสำหรับผู้ใช้ (UX) ในเว็บไซต์เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง กลยุทธ์ในการออกแบบ UX ช่วยให้คุณแก้ไขข้อบกพร่องในการใช้งานเว็บไซต์ได้

ในอินเทอร์เน็ตมีเว็บไซต์อยู่เป็นจำนวนมาก การผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่พอ คุณจะต้องทำให้เนื้อหามีความโดดเด่นและดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ด้วย แต่จะใช้วิธีใดล่ะ วิธีหนึ่งที่เราแนะนำคือการออกแบบการใช้งาน (UX) ของเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ 

ใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อทดลองใช้งานเสมือนว่าคุณเป็นผู้ใช้เอง จากนั้นจึงแก้ไขจุดบกพร่องที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้งานเว็บไซต์ การปรับปรุงในลักษณะดังกล่าวอาจช่วยให้โฆษณาสร้างผลลัพธ์ได้ดีขึ้น 

วัดประสิทธิภาพของเว็บไซต์

สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือการประเมินวิธีการใช้งานเว็บไซต์ในปัจจุบันเพื่อให้ทราบจุดที่ควรปรับปรุง

• ติดตามเมตริกสำคัญๆ เกี่ยวกับการแสดงผลของเว็บไซต์ในผลการค้นหาของ Google ด้วยการใช้ Search Console ซึ่งจะช่วยให้คุณทราบความถี่ที่เว็บไซต์ปรากฏ อันดับเฉลี่ย อัตราการคลิกผ่าน และอื่นๆ อีกมากมาย 
• รายงานประสิทธิภาพจะแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับการเข้าชมจากการค้นหาในช่วงเวลาต่างๆ รวมไปถึงที่มาของการเข้าชม และคำค้นหาที่เรียกให้เว็บไซต์ของคุณแสดงบ่อยที่สุด นอกจากนี้ยังแสดงข้อมูลหน้าเว็บที่มีอัตราการคลิกผ่านจาก Google Search สูงที่สุด (และต่ำที่สุด) ให้คุณทราบอีกด้วย
• ค้นพบโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพที่อาจซ่อนอยู่ในเว็บไซต์และปรับปรุงคุณภาพของหน้าเว็บได้ด้วย Lighthouse เมื่อใช้ Lighthouse ช่วยในการตรวจสอบเว็บไซต์ คุณจะทราบถึงปัญหาที่พบได้บ่อยซึ่งส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ ความสามารถในการเข้าถึง และการใช้งานเว็บไซต์เพื่อนำไปดำเนินการแก้ไขได้ทันที 
• ทำการ ทดสอบความเหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อดูว่าเว็บไซต์ของคุณมีความง่ายต่อการใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่มากน้อยเพียงใด เพียงป้อน URL หน้าเว็บ ระบบก็จะแสดงผลการประเมิน ผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ ดังนั้นคุณจึงควรปรับปรุงเว็บไซต์ให้เหมาะกับการใช้งานในอุปกรณ์เคลื่อนที่  
• ผู้ใช้ประมาณ 53% ออกจากเว็บไซต์ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ซึ่งใช้เวลาในการโหลดนานกว่า 3 วินาที ความเร็วของเว็บไซต์จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ ตรวจสอบความเร็วในการโหลดหน้าเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ แล้วนำไปเปรียบเทียบกับกับข้อมูลของธุรกิจประเภทเดียวกัน

ออกแบบการใช้งานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

เมื่อทราบวิธีวัดประสิทธิภาพแล้ว ก็ถึงเวลานำผลการวิเคราะห์มาใช้กับกลยุทธ์การออกแบบ UX เพื่อให้ปรับปรุงได้ตรงจุด เราขอแนะนำเฟรมเวิร์ก 3 อย่างที่ใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีความรวดเร็วและใช้งานได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

• AMP (ซึ่งย่อมาจากคำว่า Accelerated Mobile Pages) คือเฟรมเวิร์กสำหรับองค์ประกอบต่างๆ ภายในเว็บที่ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพสูงและทำงานได้อย่างรวดเร็วในอุปกรณ์ทุกประเภท
• การออกแบบเว็บที่ตอบสนองตามอุปกรณ์ คือการใช้ HTML และ CSS ในการปรับลดหรือเพิ่มขนาดเว็บไซต์โดยอัตโนมัติเพื่อให้แสดงได้พอดีกับหน้าจอของอุปกรณ์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเดสก์ท็อป แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์
• Progressive Web App คือการสร้างเว็บไซต์ที่มีลักษณะการใช้คล้ายกับแอป ซึ่งติดตั้งได้ทั้งในเดสก์ท็อปและมือถือ เว็บแอปนี้สร้างขึ้นจากเว็บและทำงานได้อย่างถูกต้องรวดเร็วไม่ว่าจะใช้ในเบราว์เซอร์ใดก็ตาม

คำนึงถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นอันดับแรก

เนื่องจากผู้ใช้ส่วนใหญ่ในปัจจุบันใช้งาน Google Search จากอุปกรณ์เคลื่อนที่ การจัดทำดัชนีและการจัดอันดับจึงขึ้นอยู่กับเนื้อหาสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ในเว็บไซต์ หากเว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาที่จะใช้แสดงในเดสก์ท็อปกับมือถือแยกกัน คุณควรปรับปรุงเว็บไซต์ให้เหมาะกับการจัดทำดัชนีของเว็บไซต์ที่เน้นการแสดงผลในมือถือดังนี้

• เนื้อหาในเว็บไซต์สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ควรเหมือนกันกับในเว็บไซต์ที่ใช้สำหรับเดสก์ท็อป
• เว็บไซต์ทั้ง 2 แบบควรใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้าง
• เว็บไซต์ทั้ง 2 แบบควรมีข้อมูลเมตา

หัวใจสำคัญของการออกแบบคือความสะดวกและรวดเร็ว คุณจึงควรจัดเว็บไซต์ให้ผู้ใช้ค้นหาและดำเนินการตามที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย มุ่งเน้นไปที่การออกแบบหน้าแรกและเมนูนำทาง เพื่อให้ผู้ใช้เลือกไปยังเนื้อหาที่ต้องการได้อย่างสะดวก เพิ่มตัวเลือกการค้นหาในเว็บไซต์เพื่อให้ผู้ใช้พบสิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ทำความเข้าใจเส้นทางของลูกค้า แล้วปล่อยให้ผู้ใช้ทำ Conversion ตามเส้นทางที่เลือกด้วยตนเอง สร้างฟอร์มที่ใช้งานง่ายเพื่อให้ผู้ใช้ทำ Conversion ได้อย่างสะดวกและราบรื่น

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างความประทับใจในการใช้งานเว็บไซต์ โปรดศึกษาจากแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการออกแบบเว็บไซต์สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่